4 ผู้เค คืออะไร, 4 ผู้ปั้นจั่น หมายถึงใคร ซึ่งคำถามนี้มักจะพบบ่อยมากขึ้นเรื่อยๆ
โดยเครน 4 ผู้ จะประกอบด้วย 1. ผู้ให้สัญญาณเครน (signal man) 2. ผู้ยึดเกาะวัสดุ (rigger) 3. ผู้บังคับรถเครน (crane operator) และ 4. ผู้ควบคุมเครน (crane supervisor) โดยเครน 4 ผู้ จะมีความหมายและมีหน้าที่ ดังนี้
1. ผู้ให้สัญญาณเครน (Signal Man)
ในหลายครั้งที่เราพบว่าการเกิดอุบัติเหตุในการทำงานกับปั้นจั่นนั้นเกิดจากการให้สัญญาณที่ไม่ถูกต้องจากผู้ให้สัญญาณปั้นจั่น ทำให้การทำงานเกิดความสับสันและนำไปสู่อุบัติเหตุ การให้สัญญาณในการทำงานกับปั้นจั่นนั้นพนักงานผู้ให้สัญญาณต้องมีความเข้าใจในท่าทางต่างๆ ตามหลักสากล รวมไปถึงเป็นไปในรูปแบบเดียวกันกับทีมงานหรือผู้บังคับปั้นจั่น พนักงานที่ทำงานกับปั้นจั่นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้เทคนิคต่างๆ เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างปลอดภัย โดยรายละเอียดงานของ Signal man มีลักษณะดังนี้
- สามารถรู้และเข้าใจการให้สัญญาณมือ
- แสดงการใช้สัญญาณดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เข้าใจการใช้งานและข้อจำกัดของอุปกรณ์ ซึ่งรวมถึงไดนามิกของเครนที่เกี่ยวข้องกับการแกว่ง การยก การลดระดับ การหยุดโหลด และการโก่งตัวของบูมจากน้ำหนักของรอก
- แสดงให้เห็นว่า signal man สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดข้างต้นผ่านการทดสอบด้วยภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ
- ได้รับการประเมินโดยผู้ประเมินที่ผ่านการรับรอง หรือบุคคลที่สามภายในองค์กร
2. ผู้ยึดเกาะวัสดุ (Rigger)
” Rigger ” เป็นหนึ่งในคำศัพท์ที่ประกอบขึ้นเป็นอาชีพต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกันจริงๆ ตั้งแต่การก่อสร้างไปจนถึงการเดินเรือ ในการก่อสร้าง Rigger เป็นผู้เชี่ยวชาญในการผูกมัด การปรับสมดุล การจัดการ และการเคลื่อนย้ายของหนักในอุตสาหกรรมก่อสร้างซึ่งอาจจะต้องการความเชี่ยวชาญและการฝึกอบรมที่แตกต่างจากงานอื่น ๆ อย่างสิ้นเชิง
สมมติว่า ถ้าโครงการก่อสร้างต้องใช้รถเครนเพื่อย้ายท่อคอนกรีตหนักจากด้านหนึ่งของแปลงไปอีกด้านหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่จะทำได้ง่าย ถ้าทำไม่ถูกต้องท่ออาจจะลื่น หรือเครนอาจจะเสียการทรงตัว ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้น Rigger จะต้องมีความเชี่ยวชาญเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่น โดยรายละเอียดงานของ Rigger มีลักษณะดังนี้
- Rigger รู้วิธีเชื่อมต่อสายเคเบิลหรือเชือกกับโหลด ซึ่งรวมถึงรู้ว่าต้องผูกปมที่ถูกต้องอย่างไร และสามารถรองรับได้อย่างปลอดภัย
- สามารถระบุอันตรายใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการยกและการเคลื่อนย้ายงานได้
- สามารถให้สัญญาณมือและถ่ายทอดความหมายไปยังเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ ได้
- ต้องถอดทำความสะอาดและจัดเก็บอุปกรณ์เสื้อผ้าหลังการใช้งาน
- ประเมินน้ำหนักและขนาดของวัตถุที่จะยกและตัดสินใจอุปกรณ์ที่จะใช้
- สามารถระบุอันตรายใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการยกและการเคลื่อนย้ายงานระบุและลดความอันตรายที่เกี่ยวข้องได้
- สามารถคำนวณตำแหน่งของจุดศูนย์ถ่วงได้ว่าต้องอยู่ตำแหน่งใด และตรวจสอบให้แน่ใจว่าโหลดที่ยกมีความเสถียร
- ปฏิบัติตามขั้นตอนอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน
- ส่งสัญญาณและแนะนำผู้ประกอบการเครนในระหว่างการยก
- สามารถใช้อุปกรณ์ต่างๆ สามารถติดตั้ง และรื้ออุปกรณ์รอกได้ เช่น สลิง, ตะขอและห่วง, คันเร่ง, และกว้าน เป็นต้น
- ยกและติดตั้งแผงสำเร็จรูปที่ทำจากเหล็กแก้วหรือคอนกรีต
- ตรวจสอบอุปกรณ์ยกทั้งหมดก่อนและหลังการยกเพื่อให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ไม่ได้รับความเสียหายหรือเสียหาย
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าโครงสร้างที่ติดตั้งทั้งหมดปลอดภัยและเป็นไปตามมาตรฐาน
3. ผู้บังคับรถเครน, คนขับเครน (Crane Operator)
ในการยกและเคลื่อนย้ายวัสดุรอบๆ สถานที่ก่อสร้างอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากที่สุด ในฐานะที่เป็นคนขับรถเครน จะต้องมีความเข้าใจในวิธีการขับและบำรุงรักษาเครื่องจักร ต้องมีความสามารถในการขนย้าย ยก และเคลื่อนย้ายของหนักโดยใช้เครนเคลื่อนที่หรือเครนอยู่กับที่ด้วยความแม่นยำสูงสุด ซึ่งงานนี้ต้องการคนที่สามารถทำงานเป็นทีมได้ ปฏิบัติตามคำแนะนำ และใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่ได้สบาย โดยรายละเอียดงานของ Crane operator มีลักษณะดังนี้
- ดำเนินการตรวจสอบความปลอดภัยของเครนในแต่ละวัน
- ติดตั้งเครนและใช้งานเครน
- ต้องควบคุมทิศทางและความเร็วของปั้นจั่น
- ขนย้ายสิ่งของรอบไซต์งานตามแบบหรือกำหนดการ
- ตรวจสอบความเสถียรของเครนและน้ำหนักบรรทุก
- ต้องร่วมงานกับผู้ส่งสัญญาณ (Banksman) เพื่อความปลอดภัยของไซต์งาน
- มีความรู้ทางกลเกี่ยวกับการออกแบบและการใช้อุปกรณ์ที่ใช้งานได้ตลอดจนความสามารถในการซ่อมแซมเล็กน้อย
- ต้องจดบันทึก ปฏิบัติตามคำแนะนำ และขั้นตอนเฉพาะของใบงานแต่ละใบสำหรับการโหลดรายการ
- ต้องตรวจสอบเครน สายเคเบิล รอก อุปกรณ์จับยึด และชิ้นส่วนอื่นๆ ทุกวัน เพื่อตรวจสอบว่าไม่มีปัญหาด้านความปลอดภัยหรือการทำงานผิดปกติที่ต้องแก้ไข
- เข้าใจและสื่อสารสัญญาณมือไปยังเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ
4. ผู้ควบคุมเครน (Crane Supervisor)
ผู้ควบคุมเครน (Crane Supervisor) คือ ผู้ที่รับผิดชอบด้านการจัดการและความปลอดภัยของสมาชิกที่ทำงานในไซต์ โดยจะตรวจสอบกฎระเบียบด้านสุขภาพและความปลอดภัยทั้งหมด ซึ่ง Srane supervisor มีระดับความรับผิดชอบและการกำกับดูแล
อย่างไรก็ตาม อาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละงาน ซึ่งทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงและความซับซ้อนของงานที่กำลังดำเนินการ ลิฟต์มาตรฐานทั่วไปจะต้องการการดูแลน้อยกว่าลิฟต์ที่ต้องใช้หลายตัวและมีความซับซ้อนมากกว่า โดยรายละเอียดงานของ Crane supervisor มีลักษณะดังนี้
- ต้องรับผิดชอบต่อการจัดการและความปลอดภัยของผู้ที่ทำงานในไซต์งาน ตรวจสอบว่า มีการปฏิบัติตามกฎระเบียบและความปลอดภัยตลอดเวลา
- แจ้งให้หัวหน้างานทราบถึงอันตรายหรืออันตรายที่อาจเกิดขึ้น
- ประสานงานและดูแลกิจกรรมการยกทั้งหมดตามแผนการยก
- มีความสามารถในการใช้งานและควบคุมอุปกรณ์ได้
- ต้องตรวจสอบสภาพพื้นดินปลอดภัยสำหรับการทำงานใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับเครนเคลื่อนที่
- สามารถในการใช้เครื่องมือ ซ่อมแซม และบำรุงรักษาเครื่องจักรได้
- สามารถดำเนินมาตรการที่เหมาะสมเพื่อแก้ไขสภาวะที่ไม่ปลอดภัย
โดยในเมืองไทยตำแหน่งที่ 1 กับ ตำแหน่งที่ 2 อาจเป็นคนเดียวกัน ซึ่งหน้างานมักจะเรียกรวมๆ ตำแหน่งที่ 1 กับตำแหน่งที่ 2 ว่า ริกเกอร์บ้าง เด็กรถบ้าง เด็กท้ายบ้าง โดยในยุคหลังๆ ทีมงานในแต่ละตำแหน่งจะต้องผ่านการอบรมจากวิทยากรเฉพาะทางโดยตำแหน่งที่ 1 กับตำแหน่งที่ 2 จะอบรมอยู่ที่ 12 ชม.
แต่ถ้าอยากได้ผู้อื่นๆ ต้องอบรมเพิ่มอีก 6 ชม. ต่อ 1 ผู้
(ผู้บังคับรถเครน 6 ชม. + ผู้ควบคุม 6 ชม.) หรือ ถ้าอยากได้ครบทั้ง 4 ผู้ จะต้องอบรม 24 ชม
ติดต่อสอบถาม
เราให้ทีมเซลล์ติดต่อกลับหาคุณได้
ใส่เบอร์โทรด้านล่างได้เลย
ทำไมต้องมีการอบรมเครน 4 ผู้
การอบรมเครน หรือการอบรมปั้นจั่น คือ การอบรมตามหลักสูตรการทำงานเกี่ยวกับเครนหรือปั้นจั่นตามกฎหมาย ซึ่งกฎหมายได้กำหนดให้สถานประกอบกิจการหรือผู้ที่ทำงานกับเครนหรือปั้นจั่นจะต้องผ่านการอบรมเครน 4 ผู้ ซึ่งการอบรมเครน สิ่งสำคัญที่ควรรู้ คือ เครนหรือปั้นจั่น แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ เครนชนิดเคลื่อนที่และเครนชนิดอยู่กับที่ ดังนั้น ก่อนจะเข้ารับการอบรมผู้เข้าอบรมจะต้องตรวจสอบให้ดี เนื่องจากหลักสูตรในการอบรมเครนจะแตกต่างกันออกไป
ซึ่งนายจ้างจะต้องส่งลูกจ้างที่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับเครนหรือปั้นจั่นเข้ารับการอบรมให้เป็นไปตามกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหาร การจัดการด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร ปั้นจั่น และหม้อน้ำ พ.ศ. 2564 นอกจากนั้นยังเป็นไปตามกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการอบรมหลักสูตรการปฏิบัติหน้าที่ผู้บังคับปั้นจั่น ผู้ยึดเกาะวัสดุ หรือผู้ควบคุมการใช้ปั้นจั่นและการทบทวนการอบรมการทำงานเกี่ยวกับเครนหรือปั้นจั่น พ.ศ. 2554 เพื่อให้สถานประกอบกิจการส่งพนักงานที่เกี่ยวข้องกับการทำงานกับปั้นจั่นหรือเครนเข้ารับการอบรมตามหลักสูตรที่กฎหมายได้กำหนด
การอบรมเครน อย่างเช่น ผู้ให้สัญญาณปั้นจั่น ทำให้เกิดความเข้าใจถึงเทคนิค การให้สัญญาณกลับไปยังผู้บังคับ บ่อยครั้งที่เรามักพบว่าอุบัติเหตุนั้นเกิดขึ้นจากการให้สัญญาณที่ไม่ถูกต้อง ก่อให้เกิดความสับสนแก่ผู้บังคับ ท้ายที่สุดแล้วทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น ดังนั้น พนักงานผู้ให้สัญญาณต้องได้เรียนรู้ท่าทางการให้สัญญาณต่างๆ อย่างถูกต้องตามมาตรฐานสากล เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการทำงาน ในขณะเดียวกันผู้บังคับเครนหรือปั้นจั่น ก็ต้องเข้าใจท่าทางการส่งสัญญาณ เพราะหากไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่าแต่ละท่า หมายถึงอะไร หรือสื่อถึงอะไร อุบัติเหตุก็เกิดขึ้นได้เช่นเดียวกัน
ซึ่งอย่างที่เราได้กล่าวไปในตอนต้นว่า การอบรมเครน ผู้เข้ารับการอบรมต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า ตนเองปฏิบัติงานเกี่ยวกับเครนหรือปั้นจั่นประเภทใด โดยปั้นจั่นแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่ ปั้นจั่นชนิดเคลื่อนที่และปั้นจั่นชนิดอยู่กับที่ หลักสูตรการอบรมนั้นแตกต่างกันออกไป ดังนั้น นายจ้างก่อนส่งพนักงานเข้ารับการอบรมต้องดูให้ดีๆ
ปัจจุบันมีสถาบันต่างๆ ที่รับอบรมเครน เลือกสถาบันที่เชื่อถือได้ สถาบันนั้นต้องได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการจากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ได้รับมาตรฐาน ISO 9001 : 2015 เป็นสถาบันที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าชั้นนำ หลักสูตรการเรียนการสอนต้องได้มาตรฐานสากล ผู้อบรมหรือวิทยากรจะต้องมีความรู้มีความสามารถและมีประสบการณ์ สามารถถ่ายทอดวิชาความรู้ รวมถึงเทคนิคต่างๆ ได้ดีเยี่ยม เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมเกิดความรู้และความเข้าใจ สามารถนำไปใช้ได้อย่างถูกต้อง