กลไกการทำงานของเครน ในงานก่อสร้าง มีความแตกต่างกันและมีข้อกำหนดเฉพาะงาน
งานก่อสร้างแต่ละงานมีความแตกต่างกันและมีข้อกำหนดเฉพาะ ทุกวันนี้เรามีเครนหลายประเภทเพื่อช่วยเหลืองานประเภทต่างๆ เครนแต่ละประเภทมีประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานที่แตกต่างกัน การติดตั้งสายเคเบิลและรอกเครนสามารถยกและลดภาระที่มนุษย์ไม่สามารถทำได้ และมักใช้ในพื้นที่ที่ถือว่าเป็นอันตราย เครนสามารถยกของที่มีน้ำหนักมากได้ เนื่องจากน้ำหนักบรรทุกจะถูกชดเชยด้วยน้ำหนักถ่วงของเครนซึ่งทำให้มีเสถียรภาพที่จำเป็นในการเคลื่อนย้ายน้ำหนักบรรทุก ดังนั้น เมื่อรู้จักปั้นจั่นหรือเครนชนิดต่างๆ ไปแล้ว จากนั้นก็จะได้รู้เรื่องการใช้งานตั้งแต่เริ่มต้น อาทิเช่น
- การตรวจสอบปั้นจั่นหรือเครนก่อนจะเริ่มใช้งาน ผู้ใช้งานและผู้ตรวจสอบจะต้องทำการตรวจเช็กทั้งในส่วนของระบบการทำงานและชิ้นส่วนของเครื่องว่าไม่มีส่วนใดที่เป็นปัญหาหรืออาจจะก่อให้เกิดอันตราย หากพบปัญหาให้รีบนำไปแก้ไขหรือซ่อมก่อนจะนำกลับมาใช้งาน
- การเลือกใช้งานปั้นจั่นหรือเครนให้ถูกประเภท
- การตรวจสอบเรื่องน้ำหนักที่ปั้นจั่นหรือเครนจะสามารถรับได้ก่อนจะใช้งานทุกครั้งและไม่ควรจะยกเกินกว่าน้ำหนักมาตรฐานที่กำหนดไว้ ไม่ควรจะยกของสูงค้างไว้เป็นเวลานาน เนื่องจากจะทำให้ปั้นจั่นหรือเครนรับน้ำหนักมากเกิน
- ไม่ควรจะเล่นหรือแกล้งกันเวลาใช้งานปั้นจั่นหรือเครน เพราะจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
- ขณะใช้งานหากพบสิ่งผิดปกติหรือขัดข้องให้หยุดใช้งานทันที
- หลังจากใช้งานเสร็จเรียบร้อยหรือเลิกงานจะต้องนำปั้นจั่นหรือเครนไปเก็บไว้ที่ตำแหน่งที่กำหนดทุกครั้งพร้อมทำการตัดไฟ เพื่อไม่ให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร
นอกจากนี้ยังมีหลักการทำงานและกลไกการทำงานของเครน ที่หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่รู้ว่าเครนนั้นมีหลักการทำงานเป็นอย่างไร โดยวันนี้เราจะให้ความรู้เกี่ยวกับเครน หากท่านใดที่กำลังต้องการใช้งานเครน หรือสำหรับคนที่ต้องใช้งานเครนในการทำงานจะต้องลองมาอ่าน เพราะจะได้มีความรู้และความเข้าใจเป็นอย่างดีในเรื่องของการใช้งานเครน เพราะหากไม่มีความรู้หรือไม่มีความสามารถในการใช้งานเครนก็อาจจะเกิดการใช้เครนในการทำงานอย่างไม่ถูกต้องและอาจจะทำให้เกิดความเสียหายมหาศาลอย่างแน่นอน โดยกลไกการทำงานของเครน มีดังนี้
- กลไกการยก เป็นกลไกสำหรับการตระหนักถึงการยกแนวตั้งของวัสดุ มันเป็นส่วนที่ขาดไม่ได้ของปั้นจั่นและดังนั้นจึงเป็นกลไกที่สำคัญที่สุดและเป็นพื้นฐานของปั้นจั่น
- กลไกการทำงาน เป็นกลไกสำหรับเคลื่อนย้ายวัสดุด้วยเครนหรือรถยก มีฟังก์ชั่นการทำงานแบบไร้รอยต่อและการทำงานแบบราง แบ่งออกเป็นสองประเภทตามโหมดการขับขี่ คือ ขับเคลื่อนด้วยตัวเองและแรงฉุด
- กลไก luffing เป็นกลไกการทำงานที่ไม่เหมือนใครของบูมเครน กลไก luffing เปลี่ยนช่วงการทำงานโดยการเปลี่ยนความยาวและความสูงของบูม
- กลไกการหมุน คือ การทำให้บูมหมุนรอบแกนแนวตั้งของรถเครนเพื่อขนย้ายวัสดุในพื้นที่วงแหวน เครนบรรลุวัตถุประสงค์ของการบรรทุกวัสดุโดยการเคลื่อนที่เพียงครั้งเดียวของกลไกหรือการรวมกันของกลไกหลายอย่าง
หลังจากที่ได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับเครนมาอย่างดีแล้ว จะต้องทำงานโดยการใช้งานเครนตามกฎที่ได้มีการกำหนดเอาไว้อย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งานเองด้วย หลักการทำงานของเครนนับว่าเป็นเรื่องที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะเป็นสิ่งแรก ๆ ที่จะต้องเรียนรู้เมื่อมีความต้องการที่จะนำเครนมาใช้งาน
ติดต่อสอบถาม
เราให้ทีมเซลล์ติดต่อกลับหาคุณได้
ใส่เบอร์โทรด้านล่างได้เลย
ทำความรู้จักกับส่วนประกอบหลักของเครน
เครน นับเป็นสิ่งที่มีความสำคัญสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมเป็นอย่างมาก เพราะจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับโรงงาน ในการยกของที่มีน้ำหนักมากเกินกว่าคนจะยกได้ไหว ในวันนี้สยามคิโต้จะพามาทำความรู้จักกับส่วนประกอบของเครนโรงงานแต่ละส่วน ว่ามีอะไรบ้าง และมีความสำคัญหรือมีหน้าที่ในการทำงานอย่างไร
1. บูม (Boom)
เป็นชิ้นส่วนที่สำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้ โดยบูมทำจากเหล็กกล้าจะยื่นออกจากตัวเครน เพื่อรับน้ำหนักสิ่งของที่ต้องการจะยก ซึ่งมีหน้าที่สำหรับใช้ในการยื่นออกไปเพื่อรับน้ำหนักของสิ่งของต่าง ๆ ที่ต้องการทำการเคลื่อนย้ายไปในทิศทางต่าง ๆ เครนแต่ละชนิดจะมีความแตกต่างกัน เครนบางชนิดต้องใช้แขนยาว ซึ่งสามารถยื่นแขนออกไปได้ไกลขึ้น ซึ่งแขนบูมมี 2 ประเภท คือ บูมสาน (lattice boom) และ บูมไฮดรอลิก
โดยวิธีการดูแลรักษา คือ หมั่นตรวจเช็คข้อต่อต่าง ๆ ว่ามีสนิม หรือเศษฝุ่นอะไรติดไหม เพราะจะทำให้การเคลื่อนที่ของเครนติดขัดได้ นอกจากนี้ยังควรตรวจสอบบริเวณรางสลิง ทำความสะอาดบ่อย ๆ และหยอดน้ำมันเพื่อให้สลิงสามารถเข้าออกได้ง่าย
2. แขนโครงถัก (Jib)
เป็นส่วนประกอบที่อยู่กับปั้นจั่นชนิดอยู่กับที่ โดยจะทำหน้าที่รับภาระน้ำหนัก รับแรงกด รับแรงดึง ของโครงสร้างทั้งหมดของเครน ซึ่งตัวแขนโครงถักนี้จะทำจากเหล็ก หากเป็นเหล็กคุณภาพดี โอกาสเกิดสนิมก็จะน้อย ดังนั้นอย่าลืมตรวจเช็คชิ้นส่วนนี้อย่างสม่ำเสมอ เพราะถ้าหากมีปัญหาอาจจะทำให้พังไปทั้งโครงสร้างได้
3. เฟืองสวิง (Rotex gear)
เฟืองสวิง คือ ชิ้นส่วนที่ทำหน้าที่ส่งกำลังในการหมุน หรือเคลื่อนย้ายตัวบูม เฟือง Rotex เป็นกลไกใต้ห้องโดยสารของเครน ช่วยให้ห้องโดยสารและบูมหมุนไปทางซ้ายและขวาได้ การเคลื่อนไหวที่เรียบง่าย แต่สำคัญอย่างยิ่งต่อการทำงานของเครื่อง วิธีการดูแลรักษา คือ ทำความสะอาดและหยอดน้ำมันอย่างสม่ำเสมอ
4. ขายันพื้น (Outriggers)
เป็นชิ้นส่วนที่จะทำหน้าที่รักษาสมดุลของตัวเครน เนื่องจากน้ำหนักของสิ่งของที่ใช้เยอะนั้นมีน้ำหนักมาก อาจจะทำให้เอนไปฝั่งใดฝั่งหนึ่งได้ ดังนั้นขายันพื้นจะช่วยให้เครนไม่ล้มและยังคงตั้งอยู่ได้ เมื่อเครนกำลังยกสิ่งของขึ้นจะมีการสั่นสะเทือนและเมื่อมีน้ำหนักแกว่งไปมา อาจจะทำให้เครนเกิดการเคลื่อนที่หรือเอียงล้มได้ ซึ่งตัวขายันพื้นจะเป็นการยันขาขึ้นและยันรถทั้งคัน เพื่อให้สามารถกระจายน้ำหนักได้อย่างเต็มที่และไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิ่งรอบข้าง และจะช่วยให้เกิดเสถียรภาพของเครน เมื่อกำลังทำการยกน้ำหนัก
5. น้ำหนักถ่วง (Counterweights)
เป็นตัวที่ช่วยถ่วงน้ำหนักให้กับเครน เมื่อมีการยกน้ำหนักสิ่งของต่างๆ เกิดขึ้นจะช่วยให้เครนโรงงานอยู่ได้อย่างมีความสมดุล เมื่อกำลังใช้งานในการยกน้ำหนักสิ่งของที่มีน้ำหนักเยอะมาก โดยตัวถ่วงน้ำหนักจะต้องมีน้ำหนักมากกว่าสิ่งของที่เคลื่อนย้ายอยู่ เพื่อป้องกันไม่ให้รถเครนพลิกคว่ำ น้ำหนักตัวถ่วงจะใช้ปรับสมดุลน้ำหนักของวัตถุที่ถูกยก โดยส่วนใหญ่แล้วเครนที่หนักเหล่านี้จะรองรับการยกของหนักหรือขุดพื้นดิน ดังนั้น โดยปกติแล้วผู้รับเหมาควรมีตัวถ่วงน้ำหนักสำรองในกรณีที่สิ่งของมีน้ำหนักมากๆ
6. สายเคเบิล (Reinforced-steel cable)
ทำหน้าที่ตรึงระหว่างแขนบูมกับสิ่งของ เพื่อให้เครนยกและเคลื่อนย้ายวัสดุได้ พวกเขาต้องใช้เชือกหรือเชือกบางอย่างเพื่อยกจริง ๆ ในกรณีของเครนวัสดุนี้เป็นเชือกเหล็กเสริม ลวดเหล็กที่ใช้ในปัจจุบันมีการเสริมแรงสูงทนต่อการกัดกร่อนดูดซับการเคลื่อนไหวหรือแรงใด ๆ และมีจุดแตกหักที่สูงมาก
7. ตะขอ (Hook)
ทำหน้าที่เกี่ยวกับสิ่งของที่ต้องการจะยก โดยปกติแล้วผู้รับเหมาควรมีตะขอหลายรูปแบบ เพื่อให้เหมาะสมกับรูปแบบการใช้งาน ตะขอบนเครนมักติดตั้งสลักนิรภัยเพื่อป้องกันไม่ให้วัสดุหลุดออกจากตะขอระหว่างการขนส่ง ตะขอเครนมักทำจากเหล็กหรือเหล็กดัด ตะขอสำหรับเครนและสินค้าสำหรับงานหนักมักจะผ่านการอบชุบด้วยความร้อนและหลอมเพื่อให้ตะขอแข็งแรงที่สุด
ส่วนประกอบหลักๆ ดังกล่าว เป็นหัวใจหลักของเครนที่เรามักจะเห็นกันตามไซต์งานก่อสร้าง แต่ทุกครั้งที่จะประกอบเครน พนักงานทุกคนจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านความปลอดภัยให้เคร่งครัด ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยคอยควบคุมทุกขั้นตอน และมีวิศวกรผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล