รถเฮี๊ยบคืออะไร แตกต่างจากรถเครนหรือไม่ เหมาะกับงานประเภทใด

รถเฮี๊ยบคืออะไร

รถเฮี๊ยบ คำคุ้นหูของใครหลายคนที่เคยได้ยินกันบ่อย ๆ บางคนก็อาจทราบอยู่แล้วว่าเป็นชื่อเรียกของรถเครน แต่คำว่าเฮี๊ยบนั้นมาจากไหนก็มีน้อยคนนักที่จะทราบที่ไปที่มาของชื่อนี้ อีกทั้งการนำรถเฮี๊ยบมาช่วยอำนวยความสะดวกในการขนย้ายสิ่งของที่มีน้ำหนักมากหรือมีขนาดใหญ่ ทำให้หลายคนเกิดความสงสัยอีกว่า แล้วรถเฮี๊ยบต่างจากรถเครนหรือไม่?

ในบทความนี้เราจึงจะพาทุกคนมารู้จักที่มาที่ไปของ รถเฮี๊ยบ ว่าแท้จริงแล้วรถเฮี๊ยบ คืออะไร แตกต่างจากรถเครนหรือไม่ เหมาะกับงานประเภทใด มาไขข้อสงสัยไปพร้อมกันเลย

รถเฮี๊ยบคืออะไร

Hiab หรือ รถเฮี๊ยบ คือ รถบรรทุกติดเครนหรือปั้นจั่นชนิดหนึ่ง มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Truck Loader Crane ซึ่งรถเฮี๊ยบจะมีลักษณะเหมือนรถบรรทุกทั่วไป และมีเครนติดตั้งอยู่ด้านหลังของรถสามารถปรับระดับขึ้นลงได้ เพื่ออำนวยความสะดวกในการยกและขนย้ายสิ่งของ นอกจากนี้รถเฮี๊ยบบางประเภทยังมีกระเช้าให้ใช้งานอีกด้วย ทำให้รถเฮี๊ยบสามารถนำมาใช้งานได้อย่างหลากหลายรูปแบบ 

สำหรับที่มาที่ไปของคำว่า “เฮี๊ยบ” นี้มาจากชื่อยี่ห้อของรถบรรทุกติดเครนแบรนด์แรกที่นำเข้ามาขายในไทย จึงทำให้ใครหลายคนเรียกติดปากตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา รถเฮี๊ยบมีถิ่นกำเนิดจากประเทศสวีเดน เมื่อประมาณกลางปี ค.ศ.1947 โดยเป็นชื่อสินค้าของบริษัท Hydrauliska Industri AB ประเทศสวีเดน 

ขนาดของรถเฮี๊ยบ

ขนาดของรถเฮี๊ยบ

โดยทั่วไปแล้วขนาดของรถเฮี๊ยบสามารถแบ่งออกได้ดังนี้

  1. รถเฮี๊ยบ หรือรถบรรทุกติดเครน ติดกระเช้าสูง 18 เมตร
  2. รถเฮี๊ยบ หรือรถบรรทุกติดเครน 3 ตัน กว้าง 2.50 เมตร ยาว 6.50 เมตร
  3. รถเฮี๊ยบ หรือรถบรรทุกติดเครน 5 ตัน กว้าง 2.50 เมตร ยาว 6.50 เมตร
  4. รถเฮี๊ยบ หรือรถบรรทุกติดเครน 6 ตัน กว้าง 2.50 เมตร ยาว 6.50 เมตร
  5. รถเฮี๊ยบ หรือรถบรรทุกติดเครน 8 ตัน กว้าง 2.50 เมตร ยาว 6.50 เมตร
  6. รถเฮี๊ยบ หรือรถบรรทุกติดเครน 10 ตัน กว้าง 2.50 เมตร ยาว 6.50 เมตร

หมายเหตุ รถบรรทุกที่ติดเครื่องทุ่นแรงจะมีทั้ง รถบรรทุก 6 ล้อ 10 ล้อ และ 12 ล้อ

รถเฮี๊ยบเหมาะกับงานประเภทใด

รถเฮี๊ยบเหมาะกับงานประเภทใด

รถเฮี๊ยบ หรือรถบรรทุกติดเครนจะมีเครนติดตั้งไว้บนรถบรรทุก เหมาะสำหรับใช้ในการขนส่งหรือขนย้ายสิ่งของที่มีขนาดใหญ่ โดยรถเฮี๊ยบจะมีให้เลือกใช้งานหลากหลายประเภทตามการรองรับน้ำหนักของตัวรถ ซึ่งสามารถรับน้ำหนักได้ตั้งแต่ 3 ตัน 5 ตัน และ 10 ตัน แถมยังปรับระดับความสูง-ต่ำได้ จึงทำให้สามารถใช้ขนย้ายของได้อย่างสะดวก รวดเร็ว โดยรถเฮี๊ยบเหมาะกับงานประเภทย้ายสิ่งของหนัก ๆ หรือใช้ในการยก บรรทุกสินค้า 

  • ใช้บรรทุกขนย้ายสิ่งของ เช่น วัสดุก่อสร้าง เหล็ก ปูน อิฐ อุปกรณ์ต่าง ๆ เครื่องจักรขนาดใหญ่ กระจก ท่อน้ำ
  • ใช้เป็นเครนยกของ เช่น ตู้คอนเทนเนอร์ โฟลค์ลิฟท์ (Forklift) ยกต้นไม้ใหญ่ ม้วนสายไฟ โครงหลังคา ถังน้ำมัน
  • ช่วยในงานก่อสร้าง 
  • ใช้ร่วมกับรถกระเช้าเพื่อทำงานติดตั้งต่าง ๆ เช่น ติดตั้งกระจก ติดตั้งป้าย

เราให้ทีมเซลล์ติดต่อกลับหาคุณได้
ใส่เบอร์โทรด้านล่างได้เลย

วิธีการใช้งานรถเฮี๊ยบ

ก่อนการใช้งานรถเฮี๊ยบจำเป็นจะต้องศึกษาคู่มือการใช้งานให้ละเอียดถี่ถ้วน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ หรือสามารถรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้าได้ สำหรับวิธีการใช้งานรถเฮี๊ยบมีดังต่อไปนี้

  1. ศึกษาอ่านคู่มือและทำความเข้าใจการใช้งาน และชั้นตอนการบำรุงรักษารถเฮี๊ยบอย่างถี่ถ้วน นอกจากนี้ควรมีคู่มือติดไว้กับตัวรถตลอดเวลา
  2. ก่อนใช้งานต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า ของที่จะทำการยกและอุปกรณ์ช่วยยก ต้องมีน้ำหนักไม่เกินตัวรถเฮี๊ยบ และพิกัดรอก รวมถึงควรใช้หูยกยกของเสมอ
  3. ตรวจสอบอุปกรณ์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องให้แน่ใจว่าพร้อมใช้งานอย่างปลอดภัย ไม่หลวม ไม่หย่อน เช่น ตะขอยก สลิง โซ่ เป็นต้น
  4. ตรวจสอบให้มั่นใจว่าของที่จะยกมั่นคงแล้ว 
  5. ห้ามยกของในขณะที่มีบุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องอยู่ในบริเวณที่ทำงาน
  6. ไม่ควรควบคุมเครื่องจักรอย่างรุนแรง
  7. ลงของด้วยความระมัดระวัง ภายใต้การควบคุมที่ตรวจสอบแล้วว่าปลอดภัย
ความแตกต่างระหว่างรถเฮี๊ยบกับรถเครน

รถเฮี๊ยบกับรถเครนแตกต่างกันไหม?

อย่างที่กล่าวไปว่ารถเฮี๊ยบ คือหนึ่งในประเภทของรถเครนเคลื่อนที่ หรือ Mobile Crane ซึ่งรถเฮี๊ยบเป็นชื่อเรียกของเครนติดรถบรรทุก ดังนั้นรถเครนและรถเฮี๊ยบจึงไม่แตกต่างกัน โดยประเภทของรถเครนเคลื่อนที่นั้นสามารถแบ่งได้ 4 ประเภทคือ

  1. รถเครนบรรทุก (Truck Loader Crane) หรือที่เรียกกันว่า รถเฮี๊ยบ นั่นเอง
  2. รถเครนตีนตะขาบ (Crawler Crane)
  3. รถเครน 4 ล้อ (Rough Terrain Crane)
  4. รถเครนล้อยาง (All Terrain Crane)

สรุป

รถเฮี๊ยบ คือชื่อเรียกของเครนติดบรรทุกที่ติดปากใครหลาย ๆ คนมานาน รถเฮี๊ยบสามารถนำมาใช้งานได้หลากหลายประเภท ทั้งยกขนย้ายสิ่งของ ใช้ในงานก่อสร้าง หรือจะใช้งานร่วมกับกระเช้าก็ได้เช่นกัน รถเฮี๊ยบสามารถช่วยให้ทำงานได้สะดวก ร่นระยะเวลา และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ก่อนการใช้รถเฮี๊ยบทุกครั้งผู้คุมควรตรวจสอบความเรียบร้อยทั้งหมดให้ถี่ถ้วน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้

ทั้งนี้ ทางบริษัท เอกเครน ไม่มีบริการให้เช่ารถเฮี๊ยบ แต่สำหรับผู้ที่สนใจเช่า โมไบล์เครน (Mobile Crane) หรือรถเครนประเภทต่าง ๆ สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ เอกเครน โลจิสติกส์ ผู้ให้บริการเช่ารถเครนทุกขนาดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

วิธีคำนวณ Load Chart ตารางการรับน้ำหนักของรถเครน

การคำนวณ Load Chart ตารางรับน้ำหนัก เพื่อความปลอดภัยในการใช้เครน

การคำนวณน้ำหนักและระยะยกตามหลัก Load Chart เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุจากการใช้เครน และเป็นความรู้ที่ควรเข้าใจอย่างถูกต้อง ตั้งแต่การหาค่าระยะยก ระยะความสูง ไปจนถึงความยาวของบูมและพิกัดยกที่แท้จริง ทั้งนี้ หากต้องการใช้งานอย่างปลอดภัย บริการรถเครนให้เช่าจากทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีมาตรฐานด้านความปลอดภัยสูง เป็นตัวเลือกที่ช่วยให้การทำงานของคุณราบรื่นและมั่นใจมากขึ้น

บางคนอาจจะเคยได้ยิน หรือ เคยได้อ่านข่าว ลวดสลิงของรถเครนขาด รถปั้นจั่นล้ม หรือ วัตถุที่ยกตกหล่นทำให้ทรัพย์สินบริเวณรอบ ๆ ได้รับความเสียหาย หรือ อาจจะรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต แน่นอนว่าเป็นเหตุการณ์ที่อันตรายและไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์เหล่านั้น 

วันนี้ผมจึงจะมาแนะนำทุกคนเกี่ยวกับ การคำนวณเครน หรือ คำนวณน้ำหนักที่เครนสามารถรับได้ไหว หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกกันว่า Load Chart เพื่อความปลอดภัยในการทำงาน ถ้าหากพร้อมแล้วไปดูกันเลยดีกว่า ว่าวิธีการคำนวณเครน ต้องทำยังไง 

การคำนวณ Load Chart สำคัญอย่างไร 

บางคนอาจจะยังสงสัยว่าทำไมต้องคำนวณเครน การคำนวณเครน (Load Chart) สำคัญอย่างไร ? จริง ๆ แล้ว การคำนวณเครนถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ เลยทีเดียวครับ เพราะถ้าหากน้ำหนักวัตถุที่ยก กับ น้ำหนักที่รถเครนสามารถยกได้ ไม่เหมาะสมกัน สามารถเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงที่ส่งผลกับทรัพย์สินและชีวิตของผู้ปฏิบัติงานและผู้ที่อยู่บริเวณรอบ ๆ ได้ 

เราให้ทีมเซลล์ติดต่อกลับหาคุณได้
ใส่เบอร์โทรด้านล่างได้เลย

วิธีคำนวณน้ำหนักที่เครนสามารถยกได้ 

1. คำนวณหาระยะยก B หรือ ระยะทำงาน

อย่างแรกที่ต้องทำในการคำนวณเครน คือ การคำนวณหาระยะทำงาน หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Working radius โดยสามารถหาได้จาก 

ระยะยก B = การวัดตั้งแต่จุดศูนย์กลางของเอวสวิงเครนไปจนถึงจุดที่วางชิ้นงาน 

2. คำนวณหาระยะความสูง

ขั้นต่อมาในการคำนวณเครนได้แก่การหาระยะความสูง หรือ Lifting Hight โดยทุกคนสามารถหาได้จาก

ระยะความสูง = ความสูงที่จุดวาง + ความสูงชิ้นงานและอุปกรณ์ช่วยยก + ระยะเผื่อที่ 1 และ 2 

3. คำนวณหาระยะความยาวบูม 

ขั้นที่ 3 ในการคำนวณเครน หลังจากที่เราได้ค่าระยะทำงาน และ ระยะความสูง แล้วจะช่วยให้เราสามารถหาความยาวบูมที่จะช่วยให้เราสามารถอ่านค่าตารางยก (Load Chart) ได้ โดยสามารถหาระยะความยาวบูมได้จาก

  1. ทำเครื่องหมาย ตามระยะการทำงานที่หาได้ (กราฟแนวนอน)
  2. ทำเครื่องหมาย ตามระยะความสูงที่หาได้ (กราฟแนวตั้ง)
  3. ลากเส้นจากเครื่องหมายที่ทำไว้ทั้ง 2 จุด จบบรรจบกัน และดูว่าจุดที่ได้อยู่ใต้สวิงบูมที่ความยาวเท่าไหร่ 
  4. อ่านค่าองศาระยะความยาวบูมที่ได้ 
Load chart การคำนวณเครน

4. อ่านตาราง Loading Chart เพื่อค่าพิกัดยก

หลังจากที่เราได้ค่าความยาวบูมแล้วก็สามารถอ่านค่าตารางยก หรือ Load Chart ซึ่งก็จะช่วยให้เราทราบว่าค่าพิกัดยกของรถเครนคันนั้น ๆ 

5. การคำนวณน้ำหนักที่เครนสามารถยกได้ทั้งหมด 

มาถึงขั้นตอนสุดท้ายในการคำนวณเครนแล้วครับ คือ การคำนวณน้ำหนักที่เครนสามารถยกได้ โดยหาจาก 

น้ำหนักที่เครนสามารถยกได้ = น้ำหนักชิ้นงาน + น้ำหนักสลิง และ ตะขอเครน + น้ำหนักของอุปกรณ์ช่วยยก 

ความหมายข้อความและสัญลักษณ์บน Load Chart 

นอกจากการคำนวณเครนแล้ว การเข้าใจความหมายของสัญลักษณ์บน Load Chart ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะจะช่วยให้สามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย ดังนั้นผมแนะนำว่าผู้ที่ต้องทำงานที่เกี่ยวข้องกับการใช้รถเครน รถปั้นจั่น จำเป็นต้องศึกษาความหมายข้อความ และ สัญลักษณ์ 

โดยวันนี้ผมได้นำข้อความ และ สัญลักษณ์ที่จำเป็นเกี่ยวกับการอ่าน Load Chart มาแนะนำครับ 

  1. หน่วยน้ำหนักที่ใช้นิยมใช้เป็นหน่วยน้ำหนัก ตัน (ton)
  2. รุ่นผลิต จะช่วยให้ทราบประเภทเครน และ ความสามารถในการยกน้ำหนัก เช่น TR250M-6 หมายความว่า รถเครนยี่ห้อ Tanano ประเภท Rough Treeain Carne สามารถยกได้ 25 ตัน 
  3. ความกว้างของขาเครน จะช่วยให้ตอนอ่านตาราง Load Chart ว่าภายใต้เงื่อนไขต่าง ๆ ควรใช้ความกว้างของขาเครนเท่าไหร่ 

สรุป

นอกจากความเข้าใจเกี่ยวกับประเภทรถเครนที่จะทำให้ใช้รถเครนได้ตรงวัตถุประสงค์แล้ว การคำนวณเครน การอ่านตาราง Load Chart เพื่อหาน้ำหนักที่สามารถยกได้ เป็นอีกเรื่องที่ไม่สามารถมองข้ามได้ ดังนั้นทุกบริษัทที่ให้บริการรถเครน หรือ บริษัทรับเหมาก่อสร้าง จำเป็นต้องเทรนและให้ความรู้กับพนักงานเกี่ยวกับการคำนวณเครน เพื่อความปลอดภัยในการทำงานครับ 

บริษัท เอกเครน โลจิสติกส์ จำกัด เราเป็นผู้นำด้านรถโมบายเครน ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเปิดให้บริการเช่ารถเครนมานานกว่า 30 ปี เน้นความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สินของผู้ใช้งานและผู้ที่อยู่บริเวณรอบ ๆ เป็นหลัก พนักงานควบคุมรถเครนของเราทุกคนได้รับการฝึกอบรมการใช้รถเครน สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถติดต่อเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 02-745-999 หรือ แอด Line @EKCRANE

การให้สัญญาณมือเครนที่ถูกต้อง เพื่อความปลอดภัยในงานก่อสร้าง

การให้สัญญาณมือเครนที่ถูกต้อง เสริมความแม่นยำในการทำงาน

นอกจากการวิธีการใช้รถเครนที่ถูกต้องและความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยในงานก่อสร้างแล้ว การให้สัญญาณมือเครน เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน โดยทั้งผู้ใช้รถเครนและผู้ให้สัญญาณจำเป็นต้องมีความรู้เกี่ยวกับการให้สัญญาณมือเครนระดับสากล เพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน 

บทความนี้ผมจะพาทุกคนไปทำความรู้จักเกี่ยวกับการสัญญาณมือเครน ที่จะช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุขณะปฏิบัติหน้าที่ได้ ถ้าทุกคนพร้อมแล้วไปดูกันเลยดีกว่าครับ 

ทำไมต้องมีสัญญาณมือเครน

ทำไมต้องมีสัญญาณมือเครน? สัญญาณมือเครนมีความสำคัญอย่างไร ? ผมสามารถตอบได้เลยครับ ว่าสัญญาณมือเครนมือเป็นสัญญาณที่มีความสำคัญและไม่สามารถขาดได้โดยเด็ดขาด เพราะการให้สัญญาณมือเครน จะช่วยให้ผู้ขับรถเครนสามารถรับรู้ว่าควรเคลื่อนที่ไปทางไหน และ ยังช่วยให้รับรู้บริเวณจุดบอดต่าง ๆ ที่ผู้ขับรถเครนไม่สามารถมองเห็นได้

ซึ่งการให้สัญญาณมือเครน นอกจากจะสามารถช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุระหว่างปฏิบัติงานได้แล้ว ยังช่วยให้การทำงานนั้นเป็นไปได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่า ภายในบริเวณไซต์ก่อสร้างนั้นจะมีเสียงดังจากการดำเนินงานของเครื่องจักรต่าง ๆ ทำให้การสื่อสารด้วยเสียง (หรือวิทยุสื่อสาร) นั้นผิดพลาดได้ง่าย จึงทำให้การใช้สัญญาณมือนั้นถูกคิดค้นขึ้นมา ซึ่งได้มีการใช้งานอย่างแพร่หลายและเป็นมาตรฐานสำคัญสำหรับผู้ใช้งานเครนทั่วโลก

นอกจากนี้สัญญาณมือเครนยังมีประโยชน์ต่อผู้ปฏิบัติงานที่อยู่บริเวณรอบ ๆ ด้วยครับ เพราะจะช่วยให้ผู้ที่อยู่บริเวณโดยรอบ สามารถรับรู้และหลีกเลี่ยงบริเวณที่เครนกำลังทำงานอยู่เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ด้วย

โดยสัญญาณมือเครนที่ทาง Ek Crane จะแนะนำให้ทราบภายในบทความนี้ เป็นสัญญาณมือเครนแบบสากลซึ่งสามารถใช้ส่งสัญญาณขณะใช้งานเครนร่วมกันได้ทั่วโลกโดยไม่ต้องกังวลในเรื่องของภาษาที่ใช้ทำงานร่วมกันเลยทีเดียว

รวมสัญญาณมือเครนสากล เซฟไปใช้ได้เลย

16 สัญญาณมือเครนสากล ที่จะช่วยให้การทำงานปลอดภัย

หลังจากที่รู้ประโยชน์ของสัญญาณมือเครนแล้ว เรามาดูกันดีกว่าครับ ว่าสัญญาณมือเครนสากลที่ทั่วโลกใช้งานกันนั้นมีอะไรบ้าง และแต่ละสัญญาณมีความหมายว่าอย่างไร 

สัญญาณหยุด

  1. หยุดยกวัตถุ

คว่ำฝ่ามือและเหยียดแขนด้านซ้ายออกไปจนสุดแขน ในระดับไหล่ พร้อมเหวี่ยงไป-มา ในแนวระดับไหล่อย่างรวดเร็ว เพื่อให้สัญญาณมือเครนหยุดยกวัตถุ

  1. หยุดยกแบบฉุกเฉิน 

คว่ำฝ่ามือลงและเหยียดแขนทั้งสองข้างจนสุดในระดับหัวไหล่ พร้อมเหวี่ยงไป-มาในแนวระดับไหล่อย่างรวดเร็ว เพื่อให้สัญญาณมือเครนหยุดยกวัตถุฉุกเฉิน

  1. หยุดและยึดเชือกลวดทั้งหมด 

กำมือทั้งสองข้างเข้าหากันโดยให้มืออยู่ระดับเอว เพื่อส่งสัญญาณให้หยุดและยึดเชือกลวดทั้งหมด 

สัญญาณรอก

  1. ใช้รอกเล็ก 

งอกข้อศอกข้างใดข้างหนึ่งขึ้นพร้อมทั้งกำมือให้อยู่ในระดับหัวไหล่ โย้ไปข้างหน้าเล็กน้อย แล้วใช้มืออีกข้างแตะที่ข้อศอกข้างที่งอ เพื่อให้สัญญาณมือเครนว่าให้ใช้รอกเล็ก

  1. ใช้รอกใหญ่

กำมือข้างใดข้างหนึ่ง แล้วยกมือขึ้นระดับเหนือศีรษะแล้วเคาะเบา ๆ บนศีรษะของตนเอง เพื่อให้สัญญาณใช้รอกใหญ่ 

  1. เลื่อนรอกขึ้น 

งอข้อศอกข้างใดข้างหนึ่งตั้งฉาก ใช้ชี้นิ้วชี้ขึ้นแล้วจึงค่อย ๆ หมุนเป็นวงกลม เพื่อเป็นสัญญาณมือเครนบอกให้เลื่อนรอกขึ้น

  1. เลื่อนรอกลง

กางแขนข้างใดข้างหนึ่งออกเล้กน้อย ใช้นิ้วชี้ชี้ลงพื้น แล้วค่อย ๆ หมุนเป็นวงกลม แล้วจึงกำมือทั้งสองข้างคว่ำลงแล้วยกขึ้น 

สัญญาณบูม

  1. ยกบูม 

กำมือพร้อมเหยียดแขนขวาออกจนสุดแขน และใช้หัวแม่มือชี้ขึ้นข้างบน เพื่อเป็นสัญญาณมือเครนบอกให้ยกบูม 

  1. นอนบูม

กำมือพร้อมเหยียดแขนขวาออกจนสุดแขน และใช้หัวแม่มือชี้ลงที่พื้น เพื่อเป็นสัญญาณมือเครนบอกให้นอนบูม 

  1. ยกบูมพร้อมเลื่อนรอกลง 

เหยียดแขนข้างใดข้างหนึ่งออกสุด แบมือให้นิ้วโป้งชี้ลงแล้วกวักนิ้วทั้งสี่นิ้วที่เหลือไป-มา เพื่อให้สัญญาณมือเครนว่ายกบูมพร้อมเลื่อนรอกลง 

  1. ยกบูมพร้อมเลื่อนรอกขึ้น 

เหยียดแขนข้างใดข้างหนึ่งออกสุด แบมือให้นิ้วโป้งขึ้นฟ้าแล้วกวักนื้วทั้งสี่นิ้วที่เหลือไป-มา เพื่อให้สัญญาณมือเครนว่ายกบูมพร้อมเลื่อนรอกขึ้น

  1. หดบูม 

กำมือทั้งสองข้างคว่ำลง แล้วยกขึ้นเสมอเอว ให้นิ้วโป้งทั้งสองข้างชี้เข้าหาลำตัว

  1. ยึดบูม 

กำมือทั้งสองข้างแล้วหงายข้อมือ ยกขึ้นระดับเสมอเอว และเหยียดนิ้วโป้งของมือทั้งสองข้างออกนอกลำตัว  

  1. หมุนบูมไปทิศทางที่ต้องการ 

เหยียดแขนข้างใดข้างหนึ่งจนสุดแขน และชี้ไปตามทิศทางที่ต้องการให้หมุนบูมไป เพื่อเป็นการบอกให้หมุนบูมไปทิศนั้น

สัญญาณมืออื่น ๆ

  1. ยกวัตถุขึ้นอย่างช้า ๆ 

ยกแขนข้างใดข้างหนึ่งขึ้น โดยคว่ำฝ่ามือไว้ในระดับซ้าย และใช้นิ้วชี้ของมืออีกข้างชี้ขึ้นตรงกลางฝ่ามือแล้วค่อยหมุนช้า ๆ เพื่อเป็นการบอกให้ยกวัตถุขึ้นอย่างช้า ๆ 

  1. สั่งเดินหน้า 

เหยียดฝ่ามือด้านขวาออกตรงไปข้างหน้า ฝ่ามือตั้งตรงในระดับไหล่ และจึงทำท่าผลักไปในทิศทางที่ต้องการให้เครนเคลื่อนที่ 

การให้สัญญาณมือเครนแบบสากล

สรุป

หลังจากที่ทุกคนได้อ่านบทความนี้ หลายคนน่าจะเข้าใจวิธีการใช้สัญญาณมือเครนที่ถูกต้องกันแล้ว แน่นอนว่าการให้สัญญาณมือเครนถือเป็นสิ่งที่จำเป็นในอุตสาหกรรมการก่อสร้าง ดังนั้นผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวกับไซต์งานก่อสร้างจำเป็นที่จะต้องมีความรู้เรื่องสัญญาณมือเครน เพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินของตนเองและผู้ที่อยู่บริเวณรอบ ๆ ทั้งนี้บริษัทรับเหมาก่อสร้างก็ควรมีการเทรนและฝึกอบรมเพื่อให้ความรู้สัญญาณมือเครนระดับสากล แก่พนักงานด้วยเช่นเดียวกัน 

บริษัท เอกเครน โลจิสติกส์ จำกัด เราเป็นผู้นำด้านรถโมบายเครน ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเปิดให้บริการเช่ารถเครนมานานกว่า 30 ปี เน้นความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สินของผู้ใช้งานและผู้ที่อยู่บริเวณรอบ ๆ เป็นหลัก พนักงานควบคุมรถเครนของเราทุกคนได้รับการฝึกอบรมการใช้รถเครน สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถติดต่อเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 02-745-999 หรือ แอด Line @EKCRANE

เราให้ทีมเซลล์ติดต่อกลับหาคุณได้
ใส่เบอร์โทรด้านล่างได้เลย

ใบเซอร์คนขับเครนคืออะไร สามารถอบรมได้ที่ไหน ราคาเท่าไร

สำหรับผู้ที่ประกอบอาชีพควบคุมรถเครนหลายคนน่าจะเคยได้ยินคำว่า “ใบเซอร์คนขับเครน” กันมาบ้าง เพราะเป็นสิ่งที่เรียกว่า ผู้ควบคุมเครนทุกคนต้องมี  แต่สำหรับบางคนที่สนใจอยากประกอบอาชีพผู้ควบคุมเครนอาจจะยังไม่รู้ใช่ไหมครับ ว่าใบเซอร์คนขับเครนคืออะไร มีไว้ทำไม และต้องไปอบรมที่ไหนถึงจะได้ใบเซอร์คนขับเครนมา ?

มาครับวันนี้ผมจะพาทุกคนไปหาคำตอบทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับใบเซอร์คนขับเครน ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยครับ! 

ใบเซอร์คนขับเครน

ใบเซอร์คนขับเครนคืออะไร จำเป็นต้องมีไหม ผมสามารถตอบได้อย่างมั่นใจเลยครับว่า ใบเซอร์คนขับเครนนับเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ผู้ขับรถเครน หรือ ควบคุมเครน จำเป็นต้องมี เนื่องจากในปี พ.ศ. 2554 กฎหมายได้มีกำหนดให้ผู้ที่ควบคุมเครนทุกคนต้องผ่านการอบรมและทดสอบจากวิศวกร เพื่อเป็นการรับประกันความปลอดภัยในการทำงาน ทั้งของตัวผู้ควบคุมเครนและผู้อื่น 

โดยหลักสูตรอบรมและทดสอบสำหรับใบเซอร์คนขับเครนจะแบ่งออกเป็น 2 แบบ ได้แก่ อบรมปั้นจั่นชนิดเคลื่อนที่ และ อบรมปั้นจั่นชนิดอยู่กับที่ ทั้งนี้สำหรับผู้ที่ผ่านการอบรมและทดสอบจากวิศวกรแล้วจะได้รับใบเซอร์มาครอบครอง โดยใบเซอร์จะมีอายุการใช้งานทั้งหมด 2 ปี 

ใบเซอร์คนขับเครน

ใบปจ.2 คืออะไร สำคัญอย่างไรต่อพนักงานขับเครน

นอกจากใบเซอร์คนขับเครนแล้ว หลายคนน่าจะต้องเคยเห็นคำว่า ใบปจ.2 กันมาบ้างใช่ไหมครับ ซึ่งถ้าให้ผมอธิบายเพื่อให้เข้าใจกันง่าย ๆ จริง ๆ แล้ว ใบปจ.2 คือ ใบอนุญาตใช้งานเครนเคลื่อนที่ตามที่กฎหมายกำหนด หรือที่เรียกว่า แบบฟอร์มตรวจสภาพเครนเคลื่อนที่นั่นเอง 

สำหรับผู้ที่ให้บริการเช่ารถเครน หรือ ผู้รับเหมาเจ้าไหนที่ไม่มีใบปจ.2 ก็จะไม่สามารถรับงานหรือให้บริการได้อย่างถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนดไว้ โดยหลักการตรวจปจ.2 ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ มีดังนี้

  • ตรวจสอบสลิงของเครน
  • ตรวจสภาพรถเครน
  • ตรวจขาช้างระดับน้ำว่าตรงหรือไม่ 
  • ตรวจลิมิตสวิทช์เครน 
  • ตรวจบูมเครน
  • ตรวจรอยเชื่อมต่อจุดสำคัญทุกจุด
  • ทดสอบการยกของรถเครน 

ใบปจ.2 และ ใบเซอร์คนขับเครน ต่างกันยังไง 

บางคนอาจจะสับสนและคิดว่าใบปจ.2 และ ใบเซอร์คนขับเครน คือ ใบเดียวกัน ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ใช่ครับ ทั้งใบปจ.2 และ ใบเซอร์คนขับเครนแตกต่างกันอย่างชัดเจนครับ โดย ใบปจ.2 คือ หลักฐานที่แสดงว่าเครนชนิดเคลื่อนที่คันนั้น ๆ ได้รับการตรวจสอบคุณภาพและพร้อมสำหรับใช้งานแล้ว 

ส่วนใบเซอร์คนขับเครน คือ หลักฐานที่แสดงว่าผู้ควบคุมเครนได้ผ่านการอบรมและทดสอบจากวิศวกรหรือสถาบันฝึกอบรม ว่าเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถในการควบคุมรถเครนได้นั่นเองครับ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับใบเซอร์คนขับเครน

คำถามที่พบบ่อย

ใบปจ.2 มีอายุเท่าไหร่

สำหรับเครนที่ได้ผ่านการตรวจสภาพโดยวิศวกรแล้วจะได้รับใบปจ.2 เป็นหลักฐานยืนยัน โดยใบปจ.2 จะมีอายุการใช้งานทั้งหมด 3 เดือน

เราให้ทีมเซลล์ติดต่อกลับหาคุณได้
ใส่เบอร์โทรด้านล่างได้เลย

อบรมตามหลักสูตรแล้ว สามารถขับรถเครนได้เป็นเลยหรือไม่ 

มีหลายคนที่สงสัยและถามผมว่า หลังจากอบรมตามหลักฐานใบเซอร์คนขับเครนแล้วจะสามารถครับรถเครนได้เป็น 100% เลยไหม ? 

สำหรับหลักสูตรอบรมและทดสอบใบเซอร์คนขับเครนเป็นหลักสูตรสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์ขับรถเครนมาก่อนหน้าแล้ว โดยมีระยะเวลาในการอบรมประมาณ 18 ชั่วโมง ถ้าหากคุณเป็นผู้ที่ไม่เคยมีประสบการณ์ในการควบคุมเครนหรือขับรถเครนมาก่อน อาจจะไม่สามารถขับเครนได้อย่างชำนาญโดยทันทีครับ 

สรุป

หลังจากปี 2554 ที่กฎหมายกำหนดให้ผู้ขับเครนทุกคนจำเป็นต้องมีใบเซอร์คนขับเครน ทำให้ใบเซอร์คนขับเครนเป็นสิ่งที่ไม่สามารถขาดได้ เพราะถ้าหากคุณขับรถเครนโดยไม่มีใบเซอร์คนขับเครนนั่นหมายความว่าคุณกำลังฝ่าฝืนและไม่ทำตามที่กฎหมายกำหนด 

ทั้งนี้ผมแนะนำว่าทุกคนที่ควบคุมเครนจำเป็นต้องมีใบเซอร์คนขับเครนเพื่อความปลอดภัยของทรัพย์สินและชีวิต ทั้งของตัวผู้ขับเครนเองและผู้อื่นด้วยครับ 

*** ทั้งนี้ ทางบริษัท เอกเครน ไม่มีบริการอบรมใบเซอร์สำหรับการขับรถเครน บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพียงเผยแพพร่ข้อมูลเพื่อความปลอดภัยสำหรับการขับรถเครนเท่านั้นครับ

สำหรับผู้ที่สนใจเช่ารถเครน บริษัท เอกเครน โลจิสติกส์ จำกัด เราเป็นผู้นำด้านรถโมบายเครน ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเปิดให้บริการเช่ารถเครนมานานกว่า 30 ปี โดยเน้นความปลอดภัยเป็นหลัก พนักงานควบคุมรถเครนของเราทุกคนได้รับการฝึกอบรมการใช้รถเครน และมีใบเซอร์คนขับเครน สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถติดต่อเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 02-745-999 หรือ แอด Line @EKCRANE

Mobile Crane คืออะไร เหมาะสำหรับใช้งานในรูปแบบใด

รถเครน หรือที่คนไทยนิยมเรียกกันว่า “ปั้นจั่น” เป็นเครื่องจักรเฉพาะทางที่ใช้ยกหรือเคลื่อนย้ายของหนักขึ้นลงตามแนวดิ่ง โดยรถเครนนั้นมีอยู่หลายประเภทด้วยกัน หนึ่งในนั้นก็คือ Mobile Crane เครนที่เน้นความสะดวกเป็นหลัก

ซึ่งในบทความนี้จะพามาทำความรู้จักกับรถเครนประเภทเคลื่อนที่ได้ หรือ Mobile Crane ว่าคืออะไร มีกี่แบบ เหมาะกับการใช้งานรูปแบบใด รวมถึงคู่มือการใช้งาน Mobile Crane เบื้องต้นเพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานรถเครน

ทำความรู้จักกับ Mobile Crane คืออะไร?

Mobile Crane คือ เครนประเภทเคลื่อนที่ได้ ประกอบด้วยอุปกรณ์ควบคุมและเครื่องต้นกำลังอยู่ในตัว ซึ่งติดตั้งอยู่บนยานที่ขับเคลื่อนในตัวเอง โดย Mobile Crane นี้มักใช้ในการเคลื่อนที่ไปยังที่ต่าง ๆ เน้นด้านความสะดวกเป็นหลักคือ ยกน้ำหนัก 

Mobile Crane มีกี่แบบ?

รถเครนชนิดเคลื่อนที่ได้ หรือ Mobile Crane ที่นิยมใช้ในปัจจุบันมีทั้งหมด 4 แบบด้วยกัน ดังนี้

Crawler Crane

1. รถเครนตีนตะขาบ (Crawler Crane)

รถเครนตีนตะขาบคือ เครนที่มีล้อแบบสายพานเหล็ก คล้ายตีนตะขาบ ส่วนใหญ่มีบูมเป็นแบบบูมสาน (Lattices Boom) ลักษณะเด่นของ Mobile Crane แบบตีนตะขาบนี้จะมีขนาดตัวใหญ่ มีล้อแบบสายพานเหล็กคล้ายรถแบคโฮ 

โดยแขนเครนจะเป็นโครงถักยาวและสูง สามารถทำงานได้เกือบทุกสภาพพื้นที่ ทั้งแข็ง อ่อน ราบ เรียบ หรือขรุขระก็สามารถทำงานได้ แต่มีข้อเสียคือแขนเครนไม่สามารถหดกลับให้สั้นลงได้ จึงมีข้อจำกัดในเรื่องระยะการเดินทาง ทำให้เดินทางได้ไม่ไกล เหมาะแก่การเคลื่อนที่ไปมาในบริเวณพื้นที่ทำงานมากกว่า

Truck Loader Crane

2. รถเครนบรรทุก (Truck Loader Crane)

รถเครนบรรทุกเป็นเครนล้อยางชนิดหนึ่ง มีลักษณะโดดเด่นคือมีการติดตั้งเครนขนาดใหญ่เอาไว้ โดยแขนเครนจะพาดยาวตลอดช่วงตัวรถ สามารถขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเอง เหมาะสำหรับการทำงานในพื้นที่ค่อนข้างเรียบและแข็งแรง ไม่เหมาะกับดินอ่อน อีกทั้งยังสามารถเข้า-ออกสู่พื้นที่ทำงานได้อย่างสะดวกอีกด้วย เนื่องจากตัวรถเครนสามารถเลี้ยวได้มุมแคบ

นอกจากนี้รถเครนบรรทุกยังมีขนาดให้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ตั้งแต่สิบตันไปจนถึงร้อยตัน

Rough Terrain Crane

3. รถเครน 4 ล้อ (Rough Terrain Crane)

รถเครน 4 ล้อ คือเครนล้อยางชนิดหนึ่ง มี 4 ล้อ แต่จะมีล้อขนาดใหญ่กว่ารถเครนบรรทุก โดย Mobile Crane ชนิดนี้มีลักษณะโดดเด่นคือ เครนมีขนาดตัวสั้นและแขนเครนยาวเลยออกมาจากตัวรถ สามารถขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเอง แต่มีข้อจำกัดในเรื่องของระยะการเดินทางที่ไม่สามารถไปไหนไกล ๆ ได้

เครน 4 ล้อนี้ยังสามารถทำงานในพื้นที่ดินอ่อน หรือพื้นที่ไม่ราบเรียบได้อีกด้วย เนื่องจากขนาดลำตัวที่สั้นทำให้สามารถเข้าถึงพื้นที่แคบได้อย่างสะดวกสบาย

All Terrain Crane

4. รถเครนล้อยาง (All Terrain Crane)

รถเครนล้อยางเป็นรถเครนที่มีขนาดใหญ่ สามารถวิ่งเร็วคล้ายรถบรรทุก มีล้อยางขนาดใหญ่จำนวนมาก และยังมีความแข็งแรงมากเช่นกัน ทำให้สามารถยกของหนัก ๆ ได้ โดยทั่วไปแล้วเครนล้อยางจะมีขนาดตั้งแต่ 25 ตันขึ้นไป

นอกจากนี้ Mobile Crane ชนิดนี้สามารถทำงานได้เกือบทุกสภาพพื้นที่ ทั้งพื้นแข็ง อ่อน ราบเรียบ หรือขรุขระ แต่รถเครนล้อยางจะสมบุกสมบันน้อยกว่ารถเครนแบบตีนตะขาบ มีบูมเฟรมเป็นท่อน ๆ เคลื่อนที่เข้าออกภายในบูมท่อนแรก 

ส่วนประกอบหลักของ Mobile Crane

  1. แขนบูม
  2. ขายันพื้น
  3. กว้าน
  4. ลวดสลิงเครน
  5. น้ำหนักถ่วง
  6. ตะขอ

ประโยชน์ของการใช้งาน Mobile Crane?

ประโยชน์ของ Mobile Crane

Mobile Crane สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับงานได้หลากหลายรูปแบบ ดังนี้

  1. รถ Mobile Crane มักนำใช้ในการก่อสร้าง เช่น อาคาร ตึกสูง ๆ หรือบ้านเรือน 
  2. รถ Mobile Crane ใช้ในงานแสดง เช่น การติดกล้องกับกระเช้าเพื่อให้ได้ภาพมุมสูง หรือใช้ในการแสดงที่ต้องการความสมจริง
  3. รถ Mobile Crane ใช้ในการทำความสะอาดอาคารสูง โดยจะเริ่มจากการยกกระเช้าของรถเครนจากมุมสูง จากนั้นค่อยไล่ทำความสะอาดไล่ระดับลงมา
  4. รถ Mobile Crane ใช้ช่วยเหลือผู้ประสบเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ไม่คาดฝัน เช่น ในกรณีที่เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ หรืออุบัติเหตุ ด้วยความสูงของรถเครนจึงสามารถช่วยเหลือผู้คนที่อยู่ในอาคารสูงได้
  5. รถ Mobile Crane ใช้ในแปลงการเกษตร โดยสามารถช่วยยกของหนัก หรือใช้เก็บพืชผลที่อยู่บนตนไม้สูงได้

เราให้ทีมเซลล์ติดต่อกลับหาคุณได้
ใส่เบอร์โทรด้านล่างได้เลย

วิธีตรวจสอบ Mobile Crane ก่อนเริ่มใช้งาน

ก่อนเริ่มใช้งาน Mobile Crane ทุกครั้ง ผู้ควบคุมรถจะต้องตรวจสอบความเรียบร้อยของรถเครน และระบบต่าง ๆ อย่างรอบคอบ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหาย และอันตรายขณะปฏิบัติงาน โดยวิธีตรวจสอบ Mobile Crane ก่อนเริ่มใช้งานมีข้อปฏิบัติดังนี้

  1. ตรวจสอบสวิตช์เปิด-ปิดการทำงาน
  2. ตรวจสอบสวิตช์ที่ใช้ควบคุมการสั่งการต่าง ๆ ได้แก่ สวิตช์เดินหน้า ถอยหลัง ยกขึ้น ยกลง ระบบเบรก ระบบเสียงสัญญาณ ระบบสายพาน

สัญญาณมือเครนสากลที่สำคัญมีอะไรบ้าง?

ในระหว่างการปฏิบัติงานอาจมีความวุ่นวาย และมีเสียงดังจากเครื่องจักรรบกวนการสื่อสาร ทำให้การพูดคุยด้วยเสียงอาจมีประสิทธิภาพไม่มากพอ จนอาจทำให้เกิดความผิดพลาดขึ้นได้ ดังนั้นผู้ควบคุมรถ Mobile Crane จึงควรเรียนรู้สัญญาณมือเครนสำคัญ ๆ เพื่อใช้ในการทำงาน หรือสั่งการ โดย 12 สัญญาณมือเครนสากลที่ควรรู้มีดังนี้

  1. เดินหน้า : ให้เหยียดแขนขวาออกไปข้างหน้า แล้วยกฝ่ามือขวาขึ้นให้อยู่ในระดับไหล่ จากนั้นทำท่าผลักไปในทิศทางที่ต้องการให้รถ Mobile Crane เคลื่อนที่ไป
  2. หยุดยกของ : เหยียดแขนซ้ายออกไปด้านข้าง โดยให้ความสูงอยู่ระดับไหล่ คว่ำฝ่ามือแล้วเหวี่ยงไปมาเร็ว ๆ 
  3. หยุดยกของฉุกเฉิน : เหยียดแขนทั้งสองข้างออกไปด้านข้างลำตัว โดยให้ความสูงอยู่ในระดับไหล่ คว่ำฝ่ามือลงแล้วเหวี่ยงไปมาเร็ว ๆ 
  4. สั่งให้ยกของขึ้นช้า ๆ : ยกแขนหนึ่งข้างโดยคว่ำฝ่ามือให้อยู่ในระดับคาง จากนั้นใช้นิ้วชี้ของมืออีกข้างหนึ่งชี้ตรงกลางฝ่ามือที่คว่ำอยู่ แล้วหมุนช้า ๆ 
  5. ยกบูม : ให้เหยียดแขนขวาออกไปด้านข้างให้สุดแขน จากนั้นกำมือและยกหัวแม่มือขึ้น
  6. นอนบูม : ให้เหยียดแขนขวาออกไปด้านข้างให้สุดแขน จากนั้นกำมือและยกหัวแม่มือลง
  7. สวิงบูมไปด้านที่มือชี้ : เหยียดแขนขวาหรือซ้าย โดยชี้ไปตามทิศทางที่ต้องการให้บูมหมุนไป
  8. สั่งให้หยุดและยึดเชือกลวดทั้งหมด : กำมือทั้งสองเข้าหากัน โดยให้ความสูงอยู่ในระดับเอว
  9. ใช้รอกใหญ่ : ให้กำมือยกขึ้นเหนือศีรษะแล้วเคาะเบา ๆ บนศีรษะหลาย ๆ ครั้ง จากนั้นใช้สัญญาณอื่น ๆ ที่ต้องการต่อได้
  10. ใช้รอกเล็ก : งอข้อศอกขึ้น กำมือระดับไหล่ โดยให้โย้ไปข้างหน้าเล็กน้อย จากนั้นใช้มืออีกข้างหนึ่งแตะที่ข้อศอก จากนั้นใช้สัญญาณอื่น ๆ ที่ต้องการ
  11. เลื่อนรอกขึ้น : งอข้อศอกขึ้นให้เป็นมุมฉาก แล้วใช้นิ้วชี้ชี้ขึ้นแล้วหมุนเป็นวงกลม
  12. เลื่อนรอกลง : กางแขนข้างใดข้างหนึ่งออกเล็กน้อย จากนั้นใช้นิ้วชี้ชี้ลงแล้วหมุนเป็นวงกลม

สรุป

Mobile Crane เป็นรถเครนที่เน้นในเรื่องความสะดวกเป็นหลัก มีทั้งหมดด้วยกัน 4 ประเภทให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมของเนื้องาน อีกทั้ง Mobile Crane ยังมีประโยชน์สามารถใช้ในงานนอกเหนือจากงานก่อสร้างได้อีกด้วย ทั้งนี้ก่อนเริ่มใช้งานเครน ผู้ควบคุมรถเครนควรตรวจสอบความเรียบร้อยให้ถี่ถ้วนก่อนการใช้งานทุกครั้ง เพื่อป้องกันอันตราย หรืออุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้

สำหรับผู้ที่สนใจเกี่ยวกับรถเครนประเภทต่าง ๆ หรือต้องการเช่ารถเครน สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ เอกเครน โลจิสติกส์ ผู้ให้บริการเช่ารถเครนทุกขนาดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

รถเครนคืออะไร มีกี่ประเภท เหมาะกับงานแบบใดบ้าง

รถเครนคืออะไร มีกี่ประเภท

หลายครั้งที่ได้ยินคำว่า รถเครน บางคนอาจจะพอนึกภาพออก แต่คงมีอีกหลายคนเลยใช่ไหมครับ ที่สงสัยว่ารถเครนคืออะไร และใช้กับงานลักษณะแบบไหน ? วันนี้ทีมงานจากบริษัท เอกเครน โลจิสติกส์ จะช่วยเฉลยคำตอบที่หลายคนสงสัยเกี่ยวกับรถเครน พร้อมแนะนำความรู้เรื่องเครนที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่จำเป็นต้องรู้ ไม่ว่าจะเป็น รถเครนคืออะไรมีกี่ประเภท เหมาะกับงานแบบไหน และต้องใช้อย่างไรถึงจะสามารถช่วยลดอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยครับ! 

ทำความรู้จักกับรถเครน คืออะไร

อย่างแรกผมขออธิบายเกี่ยวกับรถเครนก่อนครับ ว่ารถเครนคืออะไร บางคนอาจจะเรียก รถเครน (Crane) หรือบางคนอาจจะเรียก ปั้นจั่น ซึ่งจริงๆ แล้ว ทั้งสองชื่อมีความหมายเดียวกันครับ คือ อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับยกสิ่งของหรือวัตถุที่มีน้ำหนักมาก เคลื่อนย้ายยาก โดยการเคลื่อนย้ายวัตถุโดยรถเครน วัตถุจะอยู่ในลักษณะแขวนลอยไปตามแนวราบนั่นเอง

รถเครนคือ

  

ประเภทของรถเครน มีทั้งหมด 2 แบบ

ในอุตสาหกรรมก่อสร้างมักจะแบ่งประเภทรถเครนออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่ 

  1. รถเครนชนิดอยู่กับที่ หรือที่หลายคนเรียกว่า Stationaty Cranes คือ รถเครนที่ติดตั้งอยู่บนหอสูง ขาตั้ง หรือบนล้อเลื่อน ได้แก่ 
  • เครนราง (Overhead Cranes)
  • เครนขาสูง (Gantry Cranes)
  • เครนขาสูงข้างเดียว (Semi Gantry Cranes)
  • เครนหอสูง หรือ ปั้นจั่นหอสูง (Tower Cranes)
  • เครนติดผนัง (Wall Cranes)
  1. รถเครนชนิดเคลื่อนที่ หรือที่หลายคนเรียกว่า Mobile Creanes คือ เครนที่ติดตั้งอยู่บนอุปกรณ์หรือรถยนต์ที่สามารถขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น
  • เครนติดรถบรรทุก (Truck Loader Crane) เป็นรถเครนที่สามารถเคลื่อนที่ได้เร็ว เลี้ยวมุมแคบได้ เหมาะกับงานที่จำเป็นต้องเดินทางระยะไกล โดยรถเครนประเภทนี้สามารถยกของหนักได้สูงถึง 8 ตัน
  • รถเครนล้อยาง (All Terrain Cranes) คือ รถบรรทุกล้อยางที่มีเครนติดตั้งอยู่บนหลังรถ เหมาะสำหรับงานในพื้นที่ขรุขระ มีตั้งแต่ขนาด 25 ตันขึ้นไป แต่รถเครนประเภทนี้จะมีมุมเลี้ยวที่ค่อนข้างแคบ 
  • รถเครน 4 ล้อ (Rough Terrain Cranes) รถเครนประเภทนี้สามารถใช้งานในพื้นที่ขรุขระ สมบุกสมบันได้ มีขนาดตั้งแต่ 8 ตันขึ้นไป แต่ไม่เหมาะกับงานที่ต้องเดินทางระยะไกล เพราะเคลื่อนที่ได้ช้า 
  • รถเครนตีนตะขาบ (Crawler Cranes) เหมาะกับไซด์งานที่เพิ่งเริ่ม พื้นยังไม่ถูกบดอัด เนื่องจากติดหล่มได้ยาก มีขนาดตั้งแต่ 50 ตันไปจนถึง 100 ตัน สำหรับรถเครนประเภทนี้ไม่แนะนำให้ใช้งานระยะทางไกล เพราะจะทำให้ล้อสึกเร็ว 
รวมความรู้เรื่องรถเครน

ประโยชน์ของรถเครน 

หลายๆ น่าจะพอทราบกันใช่ไหมครับ ว่ารถเครนสามารถใช้ยกสิ่งของหรือวัตถุต่างๆ ในงานก่อสร้างได้ดีแต่จริงๆ และรถเครนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น 

  • ทำความสะอาด สำหรับตึกอาคารที่มีขนาดสูง สามารถนำรถเครนมาประยุกต์ใช้ช่วยให้การทำความสะอาดเป็นเรื่องง่ายได้ 
  • การแสดง บางครั้งเพื่อให้ได้ภาพในมุมสูงที่สวยถูกใจผู้กำกับ การใช้รถเครนเพื่อติดตั้งกล้องเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถพบรถได้บ่อย 
  • อุบัติเหตุและเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ด้วยรถเครนเป็นรถที่มีขนาดสูงใหญ่ และสามารถเคลื่อนได้ทำให้สามารถใช้รถเครนเพื่อช่วยเหลือเพื่อประสบภัยได้ 

เราให้ทีมเซลล์ติดต่อกลับหาคุณได้
ใส่เบอร์โทรด้านล่างได้เลย

ปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดอุบัติเหตุจากการใช้รถเครน

อุบัติเหตุที่มีสาเหตุมาจากรถเครน สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 สาเหตุหลัก ได้แก่ 

  1. อุบัติเหตุที่มีสาเหตุมาจากการปฏิบัติงานที่ไม่ปลอดภัย ซึ่งสาเหตุนี้มีอัตราที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุในระหว่างปฏิบัติหน้าที่สูงถึง 88% โดยส่วนใหญ่มักจะมาจาก 3 องค์ประกอบต่อไปนี้ 
  • ไม่ปฏิบัติตามกฎและข้อบังคับที่กำหนดไว้ เช่น ใช้รถเครนยกสิ่งของที่มีน้ำหนักเกินกว่าที่ผู้ผลิตกำหนดไว้ ลัดขั้นตอนระหว่างปฏิบัติหน้าที่ หรือไม่ได้ตรวจเช็คสภาพรถเครนก่อนใช้งาน 
  • ผู้ปฏิบัติหน้าที่ขาดความรู้ ผู้ควบคุมรถเครนและผู้ให้สัญญาณมือทุกคนจำเป็นต้องเข้าอบรมและมีความรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ใช้ การขาดความรู้ถือเป็นสาเหตุที่ร้ายแรงที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย 
  • ทัศนคติไม่ถูก มองว่าการเกิดอุบัติเหตุเป็นเรื่องของดวงชะตา อุบัติเหตุเกิดเพราะซวย โชคร้าย ทำให้ไม่ทันระวังตัว 
  1. อุบัติเหตุที่มีสาเหตุมาจากสภาวะไม่ปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็น เครื่องจักรอยู่ในสภาพที่ไม่พร้อมใช้งาน สถานที่ทำงานไม่ปลอดภัย พื้นผิวเป็นหลุมเป็นบ่อ ปฏิบัติงานใกล้ทางลาดชัน และไม่สวมใส่อุปกรณ์นิรภัย 

วิธีใช้งานรถเครนที่ถูกต้องและปลอดภัย

  1. ผู้บังคับรถเครนจำเป็นต้องมีความรู้เกี่ยวกับรถเครน และสัญญาณมือ
  2. ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ต้องสวมใส่อุปกรณ์นิรภัยทุกครั้ง 
  3. ไม่ควรวางอุปกรณ์เกะกะภายในห้องควบคุม 
  4. ทำความสะอาดใบเตือนต่างๆ ให้สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน 
  5. ปรับเบาะนั่งให้เหมาะสมกับสรีระร่างกาย 
  6. ไม่ควรวางวัตถุไว้บนสิ่งของในขณะที่ใช้รถเครนเคลื่อนย้ายวัตถุ 
  7. ไม่ควรสตาร์ทเครื่องยนต์ หากไม่ได้อยู่ภายในห้องควบคุม 
  8. ในกรณีที่ใช้ถนนสาธารณะให้ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด 
  9. จำเป็นต้องมีการตรวจเช็คสภาพรถเครนตามที่กฎหมายกำหนด 

สรุป

หลังจากที่ได้อ่านบทความนี้ หลายคนน่าจะได้คำตอบกันแล้วใช่ไหมครับ ว่ารถเครนคืออะไร  จริงๆ แล้วรถเครนก็คืออุปกรณ์ที่ใช้สำหรับเคลื่อนย้ายวัตถุที่มีน้ำหนักมากนั้นเองครับ และรถเครนยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ประโยชน์กับกิจกรรมอื่นๆ ได้หลายหลาก 

ผู้ที่สนใจเช่ารถเครน บริษัท เอกเครน โลจิสติกส์ จำกัด เราเป็นผู้นำด้านรถโมบายเครน ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเปิดให้บริการเช่ารถเครนมานานกว่า 30 ปี โดยเน้นความปลอดภัยเป็นหลัก พนักงานควบคุมรถเครนของเราทุกคนได้รับการฝึกอบรมการใช้รถเครน สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถติดต่อเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 02-745-999 หรือ แอด Line @EKCRANE