อุตสาหกรรมการก่อสร้าง คือหนึ่งในธุรกิจที่มีความเสี่ยงต่ออัคคีภัยสูงไม่น้อย เพราะในไซต์งานก่อสร้างหลาย ๆ ขั้นตอนจำเป็นต้องใช้วัสดุที่ติดไฟได้ง่ายและเครื่องจักรไฟฟ้า ดังนั้นองค์กรและผู้ประกอบการด้านงานก่อสร้างจึงต้องให้ความสำคัญกับการอบรมดับเพลิงและอพยพหนีไฟระหว่างทำงาน เพื่อเสริมความปลอดภัยของพนักงานและป้องกันความเสียหายใหญ่ที่อาจเกิดขึ้นได้ครับ
โดยเฉพาะการปฏิบัติตามกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้องที่จะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มประสิทธิภาพในการรับมือกับเหตุฉุกเฉินจากอัคคีภัยในไซต์งานก่อสร้าง
ความสำคัญของอบรมดับเพลิงและอพยพหนีไฟ
การอบรมดับเพลิงและอพยพหนีไฟ เป็นกระบวนการสำคัญเพื่อเตรียมความพร้อมของพนักงานและบุคลากรในองค์กรเพื่อลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุในอัคคีภัย และช่วยให้เราสามารถรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีจุดมุ่งหมายหลักคือ การให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีป้องกันและระงับอัคคีภัยในงานก่อสร้าง และยังครอบคลุมไปถึงแนวทางการอพยพหนีไฟที่ถูกต้องเพื่อความปลอดภัยในงานก่อสร้างของทุกคนในองค์กร
ดังนั้น รัฐบาลจึงได้กำหนดกฎกระทรวงให้สถานประกอบการทุกแห่งจัดการฝึกอบรมดับเพลิงและอพยพหนีไฟอย่างสม่ำเสมอ และถ้าหากไม่ดำเนินการตามข้อบังคับ องค์กรหรือสถานประกอบการอาจจะถูกปรับหรือได้รับโทษทางกฎหมายได้ เพราะการละเลยการอบรมดับเพลิงและอพยพหนีไฟอาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของพนักงานและทรัพย์สินของบริษัทนั่นเองครับ
ข้อกำหนดการอบรมดับเพลิงและอพยพหนีไฟตามกฎกระทรวง
ตามกฎกระทรวงของรัฐบาล ได้กำหนดไว้ว่า บริษัททุกแห่งต้องมีการอบรมดับเพลิงและอพยพหนีไฟขั้นพื้นฐาน โดยมีข้อกำหนด 3 ส่วน ได้แก่
- จำนวนพนักงานที่ต้องเข้าร่วมอบรม นายจ้างต้องจัดให้มีการอบรมดับเพลิง ให้กับพนักงาน ไม่ต่ำกว่า 40% ของพนักงานทั้งหมด
- ความถี่ในการจัดอบรม นายจ้างต้องจัดให้ลูกจ้างฝึกซ้อมดับเพลิงและฝึกซ้อมอพยพหนีไฟพร้อมกันอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง
- ระยะเวลาการอบรมที่กำหนด ต้องครอบคลุมทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ โดยมีระยะเวลาอย่างน้อย 6 ชั่วโมง
3 ส่วนการอบรมดับเพลิงและอพยพหนีไฟตามกฎกระทรวง
การอบรมดับเพลิงและอพยพหนีไฟตามกฎกระทรวงแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ซึ่งครอบคลุม ตั้งแต่ภาคทฤษฎี ภาคปฏิบัติ และการฝึกซ้อมอพยพหนีไฟ เพื่อช่วยให้พนักงานสามารถเข้าใจและปฏิบัติตามข้อกำหนดได้อย่างถูกต้องเมื่อเกิดอัคคีภัย
- หลักสูตรภาคทฤษฎี
หลักสูตรการอบรมดับเพลิงและอพยพหนีไฟภาคทฤษฎี บริษัทต้องให้ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับอัคคีภัย ทั้งสาเหตุ ประเภท และวิธีสังเกตรูปแบบของไฟไหม้ เช่น ไฟไหม้จากสารเคมี ไฟไหม้จากไฟฟ้าลัดวงจร และไฟไหม้จากเชื้อเพลิงต่างๆ และขั้นตอนการใช้งานเครื่องมือดับเพลิง เช่น การเลือกใช้ถังดับเพลิงที่เหมาะสมกับประเภทของไฟ หรือการทำงานของระบบแจ้งเตือนไฟไหม้
- หลักสูตรภาคปฏิบัติ
สำหรับหลักสูตรภาคปฏิบัติ ให้บริษัทเน้นไปที่การใช้เครื่องมือดับเพลิงอย่างถูกต้อง โดยเริ่มต้นจากการแต่งตั้ง ผู้เฝ้าระวังไฟ การฝึกฝนให้พนักงานสามารถใช้ถังดับเพลิงชนิดต่าง ๆ ได้อย่างถูกวิธี ทั้งถังดับเพลิงแบบผงเคมีแห้ง หรือถังดับเพลิงชนิด CO2 การสอนการใช้งานสายดับเพลิงเพื่อควบคุมเพลิง และอธิบายถึงขั้นตอนการช่วยฟื้นคืนชีพ พร้อมกับจำลองสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมมีความคุ้นเคย และสามารถตอบสนองต่อเหตุการณ์จริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การฝึกซ้อมอพยพหนีไฟ
สุดท้ายคือ การฝึกซ้อมอพยพหนีไฟ ซึ่งเป็นกระบวนการสำคัญที่จะช่วยให้พนักงานเข้าใจแนวทางการอพยพที่ถูกต้องเมื่อเกิดเหตุจำเป็น โดยครอบคลุมตั้งแต่ การนัดจุดรวมพลและแนวทางการตรวจสอบจำนวนพนักงาน การเดินตามเส้นทางหนีไฟที่กำหนดไว้ การใช้บันไดหนีไฟ และการปฏิบัติตามสัญญาณเตือนภัยเพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด และสร้างความมั่นใจว่าไม่มีผู้ติดค้างอยู่ในอาคาร
เตรียมความพร้อมอบรมดับเพลิงและอพยพหนีไฟ
การเตรียมตัวก่อนการอบรมดับเพลิงและอพยพหนีไฟเป็นสิ่งสำคัญที่บริษัทควรใส่ใจ เพราะจะช่วยให้เราสามารถฝึกอบรมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและนี่คืออุปกรณ์ที่จำเป็น สถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการฝึกอบรม และเอกสารที่ต้องจัดเตรียมเพื่อให้การอบรมเป็นไปอย่างราบรื่นครับ
อุปกรณ์ดับเพลิงที่จำเป็น
โดยแบ่งเป็น 4 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่
- ถังดับเพลิง ซึ่งใช้งานให้เหมาะสมกับประเภทของไฟไหม้ เช่น ถังดับเพลิงชนิดผงเคมีแห้งสำหรับไฟไหม้ทั่วไป หรือถังดับเพลิง CO2 สำหรับไฟไหม้ที่เกิดจากอุปกรณ์ไฟฟ้า
- สายดับเพลิงและหัวฉีดน้ำ ควรติดตั้งสายดับเพลิงพร้อมหัวฉีดน้ำแรงดันสูงที่สามารถเข้าถึงทุกพื้นที่ภายในอาคาร
- สัญญาณเตือนไฟไหม้ ที่ช่วยแจ้งเตือนพนักงานเมื่อเกิดเพลิงไหม้ เช่น เครื่องตรวจจับควัน เครื่องตรวจจับความร้อน และสัญญาณเตือนภัย
- อุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัยอื่น ๆ เช่น อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล ผ้าห่มกันไฟ ถุงมือทนความร้อน และหน้ากากกันควันไฟ
พื้นที่สำหรับการฝึกอบรม
พื้นที่ฝึกอบรมดับเพลิงและอพยพหนีไฟ ควรมีความปลอดภัยและเหมาะสมต่อการทำกิจกรรม ได้แก่
- บริเวณเปิดโล่ง ซึ่งสามารถควบคุมไฟได้ง่าย และลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ
- ห้องฝึกอบรมเฉพาะทาง ที่มีอุปกรณ์จำลองสถานการณ์เพลิงไหม้เพื่อการฝึกที่สมจริง
- มีอุปกรณ์ความปลอดภัย เช่น เครื่องดับเพลิงสำรอง อ่างน้ำ และทางหนีไฟในกรณีฉุกเฉิน
เอกสารที่ต้องจัดเตรียม
บริษัทควรจัดเตรียมเอกสารสำคัญเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและมาตรฐานความปลอดภัย ได้แก่
- แผนการฝึกอบรม พร้อมระบุรายละเอียดหลักสูตรอบรมดับเพลิงและอพยพหนีไฟ
- คู่มือความปลอดภัย เพื่อให้พนักงานทราบถึงแนวทางปฏิบัติในกรณีเกิดเพลิงไหม้
- รายงานผลการอบรม สำหรับการบันทึกข้อมูลผู้เข้ารับการฝึกอบรมและผลการทดสอบ
- ใบรับรองการอบรม ใช้เป็นหลักฐานว่าองค์กรได้ดำเนินการฝึกอบรมตามกฎหมายกำหนด
สรุป
การอบรมดับเพลิงและอพยพหนีไฟเป็นขั้นตอนที่จำเป็นสำหรับการทำงานในไซต์ก่อสร้าง ที่จะช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงจากอัคคีภัยระหว่างการใช้งานเครื่องมือต่าง ๆ และการดำเนินการตามกฎกระทรวงจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าพนักงานมีความพร้อมเพื่อรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับใครที่ต้องการลดความเสี่ยงในการทำงานก่อสร้าง หรืออยากติดตามข่าวสาร ความรู้ และสาระดี ๆ เกี่ยวกับอุตสาหกรรมก่อสร้าง รถเครน และปั้นจั่น EK CRANE เราคือ ผู้นำด้านบริการเช่ารถเครนทุกขนาดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการทำงานไซต์ก่อสร้าง สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยครับ
- Website: https://ekcrane.com/th/contact/
- Tel: 02-745-9999
- Line: @EKCRANE
- E-mail: [email protected]